การบำรุงรักษาเชิงป้องกันสำหรับรถบรรทุก
บริษัท โซล่า แอสฟัลท์ จัดฝึกอบรมให้ความรู้แก่พนักงาน เนื่องจากบริษัทฯมีการใช้รถบรรทุกอย่างหนัก และรถบรรทุกมีการใช้งานเป็นเวลานาน จึงนำหลัการฝึกอบรมการขับการยก ลดการเสียเวลาจากการที่รถบรรทุกเกิดเหตุขัดข้องระหว่างทางที่กำลังขนส่ง
ปัจจุบันนี้มีการขยายตัวของธุรกิจด้านการขนส่งมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ผู้ประกอบการทางด้านการขนส่งจะต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของตัวเองให้เหมาะสม เพื่อช่วยสร้างโอกาสความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน สิ่งสำคัญของธุรกิจนี้ก็คือ พาหนะที่ใช้ขนส่ง เพื่อส่งสินค้าเหล่านั้นไปส่งยังจุดหมายให้ทันเวลา และ ปลอดภัย ซึ่งประเทศไทยมีการขนส่งโดยใช้รถบรรทุกเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่ารถบรรทุกจะสามารถขนส่งสินค้าไปได้ทุกที่ แต่ก็มีต้นทุนในการขนส่งที่สูง จากที่ได้ข้อมูลจากกลุ่มรถบรรทุก พบว่า ต้นทุนในการซ่อมบำรุงรถบรรทุกมีมูลค่าที่สูงมาก เนื่องจาก มีการใช้งานรถบรรทุกอย่างหนัก และ รถบรรทุกมีการใช้งานมาเป็นเวลานานแล้ว ถ้าเราได้นำหลักการวางแผนการซ่อมบำรุงมาประยุกต์ใช้ จะช่วยลดต้นทุนการซ่อมบำรุงให้น้อยลง ลดการเสียเวลาจากการที่รถบรรทุกเกิดเหตุขัดข้องระหว่างทางที่กำลังขนส่ง
1.เก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
2.จัดลำดับความสำคัญเพื่อการวางแผนการบำรุงรักษา
เนื่องจากชิ้นส่วนในรถบรรทุกมีจำนวนมากที่ต้องบำรุงรักษา หากเราดูแลทุกชิ้นส่วนเท่าๆกันหมด ก็เชื่อได้ว่า ทำอย่างไรก็ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง จึงได้ทำการจัดลำดับความสำคัญของชิ้นส่วนต่างๆ ของรถบรรทุก โดยการวิเคราะห์FMEA เพื่อที่จะเลือกชิ้นส่วนที่มีความสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการขนส่ง ซึ่งต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แก้ไขเร่งด่วน มาทำการวางแผนการซ่อมบำรุง และตัดชิ้นส่วนที่มีความสำคัญน้อยออกไปจากแผนการซ่อมบำรุง โดยมีวิธีการวิเคราะห์ความสำคัญดังนี้
-แยกอะไหล่ย่อยแต่ละชนิดออกมาวิเคราะห์ให้หมด
-แยกอะไหล่ที่มีการบำรุงรักษาเชิงป้องกันอยู่แล้วออกไปก่อน เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง การอัดจาระบีล้อ การอัดจาระบีตามจุดสำคัญ
-แยกอะไหล่ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งไปใช้กลยุทธ์การบำรุงรักษาด้วยผู้ควบคุมเครื่อง (Operation Maintenance) เช่น กระจกมองข้าง ถ้าชำรุดจะไม่ทำให้รถต้องหยุดการขนส่งทันที ผู้ขับรถอาจจะแวะจอดซื้ออะไหล่ข้างทาง แล้วนำมาเปลี่ยนเองได้โดยง่าย
-วิเคราะห์ความสำคัญด้วยFMEA
-แบ่งกลุ่มการบำรุงรักษาตามความสำคัญที่วิเคราะห์ไว้