โซล่าแอสฟัลท์ดำเนินนโยบายควบคู่กับกรมทางหลวงโดยนำแอสฟัลต์ซีเมนต์ผ่านการปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราจากธรรมชาติ ภายใต้กระบวนการผลิตที่ทันสมัยเพื่อทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ การใช้ยางพาราธรรมชาติที่เป็นทรัพยากรสำคัญภายในประเทศไทยเป็นสารผสมเพื่อใช้ในงานทางนั้น สามารถช่วยปรับปรุงให้พื้นผิวถนนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ NRMA (ผิวทางแอสฟัลต์ซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราธรรมชาติ) มีความยืดหยุ่น มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักและการจราจรได้มากกว่าผิวทางแอสฟัลต์ (Asphalt Cement 60/70) ธรรมดา นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณสมบัติในด้านการต้านทานการลื่นไถล (Skid Resistance) และ เพิ่มอายุการใช้งานของถนนอีกด้วย
มาตรฐาน
มอก.2731-2559 แอสฟัลต์ซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ
ทล.ม.416/2556 มาตรฐานแอสฟัลต์คอนกรีตปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพาราธรรมชาติ
(Natural Rubber Modified Asphalt Concrete)
การนำไปใช้งาน
แอสฟัลต์คอนกรีตสำหรับงานก่อสร้างผิวทาง (Wearing Course)
คือให้ความร้อนยางมะตอยและหินจนได้อุณหภูมิที่ต้องการแล้วจึงผสมคลุกเคล้ากันในเครื่องผสม (Mixing Plant) ตามอัตราส่วนที่ถูกต้องตามที่ออกแบบไว้ แล้วนำไปปูผิวทางตามความหนาที่ต้องการ
งานปรับระดับ (Leveling) คือการนำแอสฟัลต์คอนกรีต ไปปูบนชั้นผิวทางเดิมเพื่อปรับระดับผิวทางตามระดับที่ต้องการ
งานเสริมผิว (Overlay) คือการนำแอสฟัลต์คอนกรีต ไปปูบนชั้นผิวทางเดิมเพื่อเสริมผิวทางเพื่อยืดอายุการใช้งานของผิวทาง
คุณลักษณะที่ต้องการ | หน่วย | มาตรฐานที่กำหนด |
1. เพนิเทรชั่น (Penetration) ที่ 25 °C
น้ำหนักกด 100 g. เวลา 5 วินาที |
0.1 mm. |
50-70 |
2. ความต้านทานแรงเฉือนไดนามิกจี */sin ð,ที่ 70 °C,10 rad/s ไม่น้อยกว่า |
KPc |
1.0 |
3. Softening Point ไม่น้อยกว่า |
°C |
50 |
4. Elastic Recovery ที่ 25 °C ไม่น้อยกว่า |
% |
40 |
5. Brookfield viscosity, shear rate18.6 s-1, spindle 21 ที่ 150 °C |
cP |
200-600 |
6. เสถียรภาพต่อการเก็บที่ 24 ชม. ที่ อุณหภูมิ 163 °C ค่าความแตกต่างระหว่าง Softening Point ไม่มากกว่า |
°C |
4 |
7. จุดวาบไฟไม่น้อยกว่า |
°C |
220 |
8. Rubber Content ไม่น้อยกว่า |
% wt |
5.0 |
9. กากที่เหลือจากการอบ Thin Film Effect of Heat (TFOT) ไม่เกิน |
% wt. |
1.0 |
10. เพนิเทรชั่น (Penetration) ที่ 25 °C น้ำหนักกด 100 g. เวลา 5 วินาที 0.1 mm. ร้อยละของเดิมไม่น้อยกว่า |
% |
60 |
11. Softening Point แตกต่างไปจากเดิมไม่เกิน |
°C |
+6 |
12. Elastic Recovery @ 25 °C ที่ระยะ10 cm. ไม่น้อยกว่า |
% |
25 |
คุณสมบัติ
1. เพนิเทรชันและจุดอ่อนตัวยางแอสฟัลต์ที่ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพารา จะมี
คุณสมบัติที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิลดน้อยลง
2. ค่า Dynamic Shear Modulus ที่มีค่าสูงขึ้น จะมีคุณสมบัติในด้าน Rheology ดีขึ้น
3. ค่าจุดอ่อนตัวและค่าความหนืด Brookfield ที่สูงขึ้นยางแอสฟัลต์ที่ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางพารา จะมีคุณสมบัติด้าน การบิดงอและการยืดหยุ่น (Viscoelastic) ดีขึ้น
4. ค่า Elastic Recovery ที่มีค่าสูงขึ้น จะมีคุณสมบัติเพิ่มความสามารถในการดูดซับได้โดยไม่แตก หรือเสียรูป เป็นการเพิ่ม Fatigue Resistance
ข้อเสนอแนะและวิธีการจัดเก็บ
อาจลุกติดไฟได้ง่าย ถ้าให้ความร้อนสูงเกิน
อุณหภูมิการจัดเก็บแอสฟัลต์ซีเมนต์ในถังเก็บ ไม่ควรสูงเกิน 150 องศาเซลเซียส เพราะจะทำให้ยางเสื่อมคุณภาพ
ถังบรรจุต้องสะอาด แห้ง และไม่ปนเปื้อนน้ำมัน หรือน้ำ เพราะอาจทำให้คุณสมบัติของแอสฟัลต์ซีเมนต์เปลี่ยนไปหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายได้
ระหว่างการขนถ่ายสินค้า ควรสวมหมวกนิรภัยพร้อมหน้ากากกันกระเด็น สวมเสื้อแขนยาวหรือปลอกแขนเพื่อป้องกันความร้อนให้รัดกุมและถุงมือหนัง เพื่อความปลอดภัยในการทำงานหากมีเหตุฉุกเฉิน
กรณีลุกติดไฟ ห้ามใช้น้ำดับโดยเด็ดขาด ให้ใช้คาร์บอนไดออกไซด์ผง โฟม ทราย ดับแทน
ควรควบคุมอุณหภูมิที่ใช้ขณะผสมไม่ให้เกิด 180 องศาเซลเซียส เพราะจะทำให้ยางสูญเสียคุณสมบัติของยางพาราได้
ควรระวังไม่ให้อุณหภูมิของแอสฟัลต์ซีเมนต์ผสมยางพารา ลดลงต่ำมากเพราะจะทำอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้ยาก